จริงหรือหลอก

          กลับมาตามที่นัดกันไว้ค่า ห่างหายไปนานแสนนาน วันนี้จะมาบอกในเรื่องนาฬิกาแท้หรือปลอมนะคะ เวลาซื้อจะได้ไม่โดนหลอก แหม...ถ้าไม่ใช่เซียนหรือไม่ใช่คนที่เล่นนาฬิกาก็ไม่มีทางรู้ใช่มั๊ยหล่ะคะ คราวนี้จะเอายี่ห้อที่ทุกคนรู้จัก ก้อคือ Rolex นั่นเองค่ะนาฬิกายี่ห้อนี้ถือว่าเป็นนาฬิกาที่หาซื้อได้ง่าย เรียกได้ว่า เป็นนาฬิกาที่ได้รับควมนิยมจากคนมีกะตังค์ซะส่วนใหญ่ เพราะราคามันก้อก้ำกึ่ง และคนที่ไม่มีกะตังค์แต่อยากมีนาฬิกาแบรนด์ดัง ก็ต้องคว้านหาของปลอมมาใส่โก้ๆกัละคะ ทีนี้ในการสังเกตว่านาฬิกาเป็น Rolex แท้หรือปลอม มีสิ่งหนึ่งที่เราจะต้องจำไว้ให้มั่นคือ “ Rolex เป็นนาฬิกา ที่สมบูรณ์แบบ” 

          ต่อไปนี้ เป็นข้อสังเกตบางประการที่เปรียบเทียบระหว่าง Rolex แท้กับของปลอม ซึ่งเราจะต้องเข้าใจไว้ก่อนว่า มูลค่าตลาดของปลอมนั้นมหาศาล จึงจูงใจให้เทคโนโลยีในการปลอมสูงขึ้นและดีขึ้นเรื่อย ๆ ข้อผิดพลาดหลายจุดที่เขียนไว้นี้อาจใช้ไม่ได้กับนาฬิกาปลอมระดับ A บางรุ่น
อย่างไรก็ตามหากคุณได้สัมผัสและคุ้นเคยกับ Rolex แท้บ่อย ๆ บางทีแค่มองผ่านๆก็รู้แล้วว่าแท้หรือปลอม
-น้ำหนัก Rolex แท้ทุกเรือนจะผลิตด้วยเหล็กกล้าอย่างดี (904 L) ถ้าเป็นสีทองก็จะเป็นทองแท้ 18 K หรือ แพลตตินั่ม ซึ่งจะทำให้มีนำหนัก หนักเป็นพิเศษ ในขณะที่ของปลอมจะทำด้วยเหล็กที่มีคุณภาพต่ำกว่า ทำให้มีน้ำหนักเบากว่าด้วย
-สีสัน ของแท้โดยเฉพาะสีทอง 18 K จะมีความเงางามและงดงาม ซึ่งจะต่างจากของปลอมที่จะใช้ทอง 14 K หรือชุบทองจึงให้ทำมีสีเหลืองจัดจ้านเกินไปหรือออกสีโทนส้ม หรือ เงาเกินไป
-การเคลื่อนไหวของเข็มวินาที (กรณีไม่ใช่ระบบคว็อตซ์) ของแท้จะมีการเคลื่อนไหวที่ราบรื่นกว่าด้วยความถี่ประมาณ 5-8 ครั้งต่อวินาทีจึงดูราบเรียบไม่กระตุกเหมือนกับของปลอมที่จะทำความถี่ได้เพียง 3-4 ครั้งต่อวินาทีเท่านั้น
-ฝาหลัง จำไว้ว่า Rolex ไม่เคยผลิตนาฬิกาหลังเปลือย (ฝาหลังเป็นกระจก) 

-Marking ที่ฝาหลัง Rolex ส่วนใหญ่จะไม่มี Logo และเลขรุ่นหรือข้อมูลใด ๆ สลักอยู่บนฝาหลัง ยกเว้นบางรุ่น คือ รุ่นSea-Dweller และรุ่นSubmariner และ Sea-Dweller Comex มีรูป

-สติ๊กเกอร์ที่ฝาหลังของแท้จะเป็นลาย hologramซึ่งจะดูสวยงามและเป็นลักษณะ 3 มิติ มีรุปมงกุฎอยู่ตรงกลางเหนือ เลขรุ่นแต่ของปลอมจะเลียนแบบไม่ได้เหมือนของจริง กล่าวคือลายจะดูเรียบ ๆ ไม่เป็นสามมิติ รวมทั้งเลขรุ่นมักจะไม่ค่อยตรงกับข้อเท็จจริง 

-กระจก Rolex จะใช้กระจก แซฟไฟร์ ในขณะที่ของปลอมถ้าใช้กระจกธรรมดาจะสังเกตุได้ง่ายคือ เราจะมองเห็นเป็นสีกระจกออกเขียว หรือขาวขุ่น ขณะที่ของแท้เราจะเห็นเป็นสีเรียบใส นอกจากนี้เรายัง
-มีวิธีทดสอบได้โดยการหยดน้ำลงบนกระจก ถ้าน้ำรวมตัวกันเป็นก้อนแสดงว่าเป็นแซฟไฟร์ แต่ถ้าน้ำไม่รวมตัวกันแสดงว่าเป็นกระจกธรรมดา 
- ตัวเลนส์ขยายดูวันที่ของแท้จะมีกำลังขยายถึง 2.5 เท่าของปลอมส่วนใหญ่จะสามารถขยายได้เพียง 1.5 เท่า ทำให้ตัวเลขดูเล็กกว่า มีรูป

- ยางมะยม Triple lock ที่ใช้กับรุ่น Submariner, Sea Dweller และ Daytona เมื่อเราคลายเกลียวดึงมะยมออกมา เห็นยางเส้นเล็ก ๆ อยู่ ซึ่งตรงนี้ ของปลอมส่วนใหญ่จะละเลยไป

-การหมุนมะยม เมื่อคลายเกลียวออกมาในตำแหน่งที่ 1 เพื่อการไขลาน หากมีความรู้สึกไม่แน่นหรือไม่ราบเรียบ หรือมีเสียงผิดปกติ ก็จะเป็นข้อสังเกตอีกอย่างว่านาฬิกาไม่ได้คุณภาพ และหากตัวเลข1-31ไม่อยู่กึ่งกลางของเลนส์ ก็เป็นข้อสังเกตว่านั่นคือของปลอม
-Micro-Etching Rolex ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา จะมี Logo รูปมงกุฎที่เล็กมากอยู่บนตำแหน่ง 6 นาฬิกา และเช่นเคยของแท้จะมีลักษณะสวยงามคมชัด และสัดส่วนที่ถูกต้อง

                       

     https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi-vDzkdA46Jc_sinp-KpgQ9ST0_mshUWMVYKm1x5FILPeI_Vx9-sOK1zKiXIGJfEA_GYVSdcJ6OwivfsixvNPQeLawAUQFoHvQ_d3W56VfKyUE_7vWtrk3zoyBKT3xY1rXh5HzyA_878Y/s200/3.jpg